จ้าวแห่งฟรีคิกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เกมฟุตบอลปัจจุบันถือว่าเอื้อต่อจอมยิงฟรีคิกเป็นอย่างมาก ทั้งบอลที่มีน้ำหนักเบา รวมถึงกฏต่างๆ ที่ส่งผลให้จำนวนประตูเกิดขึ้นจากลูกฟรีคิกเพิ่มมากขึ้น ล่าสุด อันเดรียส เปเรร่า ก็เพิ่งซัดประตูแรกให้กับทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้จากการยิงฟรีคิกด้วย ในเกมที่เจอกับอิปสวิช ทาวน์เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่ก่อนหน้าดาวรุ่งชาวบราซิลรายนี้ ทีมปีศาจแดงก็มีเจ้าพ่อลูกนิ่งมากมายในอดีต และนี่ก็คือกลุ่มผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในการยิงฟรีคิกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ผ่านมา…
เดนิส เออร์วิน – ยิงฟรีคิกได้ 7 ประตู
ภาพรวม ฟูลแบ็คชาวไอริชเชี่ยวชาญทั้งการยิงลูกจุดโทษ และลูกฟรีคิก เขาถูกเซ็นสัญญาเข้ามาโดย อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในฐานะนักเตะที่สามารถเล่มเกมรับทางริมเส้นได้ทั้ง 2 ฝั่ง เออว์วินได้สร้างชื่อเป็นจอมยิงฟรีคิกของทีมในฤดูกาลที่ 2 ของเขาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยทำได้ถึง 2 ประตูในรอบ 11 วันในปี 1991 เป็นเกมที่เอาชนะเชลซี และโอลด์แฮม นั่นทำให้ทุกคนได้รู้ว่าเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่สามารถเล่นลูกนิ่งได้ดีที่สุดในวงการฟุตบอลอังกฤษเวลานั้น
สไตล์การยิง เน้นไปที่พละกำลังมากกว่าการปั่นโค้ง การเล่นลูกเซ็ตพีซของเออร์วินส่วนใหญ่จะเป็นการยิงระยะไกล ซึ่งเป็นระยะที่ห่างพอที่เขาจะยิงให้บอลข้ามกำแพงแล้วพุ่งเข้าสู่ก้นตาข่าย
ประตูเด่น เป็นการยิงที่แอนฟิลด์เมื่อเดือนมกราคม 1994 และนั่นก็กลายมาเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาในการเล่นลูกนิ่ง แบ็คชาวไอริชซัดบอลจากระยะ 25 หลาพุ่งผ่านมือ บรู๊ซ กร็อบเบลาร์ เข้าสู่มุมประตูไป
ทีมที่ตกเป็นเหยื่อ คริสตัล พาเลซเจอกับทีเด็ดของเขาถึง 2 ครั้งในฤดูกาล 1994/95 ครั้งหนึ่งในพรีเมียร์ ลีก และก็มาโดนเข้าอีกทีในเกมเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่สนามวิลล่า พาร์ค
เกร็ดน่ารู้ หลังจากที่เขาซัดฟรีคิกใส่พาเลซได้ที่วิลล่า พาร์ค หลังจากนั้นคนที่มาทำหน้าที่เล่นลูกนิ่งแทนเขาก็คือ เดวิด เบ็คแฮม และนักเตะชาวไอริชก็ค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดต่อไปอีก 7 ปี โดยที่ไม่มีชื่อทำประตูจากลูกฟรีคิกได้อีกเลย
เวย์น รูนี่ย์ – ยิงฟรีคิกได้ 8 ประตู
ภาพรวม หนึ่งในจอมซัดลูกนิ่งในทีมยูไนเต็ดชุดปัจจุบัน รูนี่ย์ประเดิมสนามด้วยการซัดแฮตทริค ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือลูกยิงฟรีคิกต่อหน้าแฟนๆ ฝั่งสเตรทฟอร์ด เอนด์ แต่หลังจากนั้นเขาก็เป็นตัวเลือกในการยิงฟรีคิกรองลงมาจาก ไรอัน กิ๊กส์ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เขาต้องรออีกนานเกือบ 7 ปี กว่าจะยิงประตูได้อีกครั้งจากลูกเซ็ตพีซ เป็นเกมที่เจอเวสต์ แฮม เมื่อปี 2001 แต่นักเตะหมายเลข 10 ก็มายิงฟรีคิกได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงที่ เดวิด มอยส์ คุมทีม
สไตล์การยิง หลังจากวิ่งระยะสั้นๆ เขาก็มักจะซัดบอลด้วยพละกำลัง ด้วยความแม่นยำ บอลจะพุ่งเข้าสู่พื้นที่อันตราย ยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดก็คือลูกที่เขายิงเชลซีและเวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน
ประตูเด่น ในเกมที่แพ้ในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เมื่อปี 2013 รูนี่ย์ก็มาทำให้แฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้มีอะไรให้จดจำบ้างจากการปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลาผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าสู่มุมประตู แม้ว่าจะเป็นสกอร์ที่ไม่มีความหมายอะไรแล้วก็ตาม
ทีมที่ตกเป็นเหยื่อ ในชัยชนะเหนืออาร์เซนอล 8-2 เมื่อปี 2011 นั้นอาจไม่ได้เป็นการยิงฟรีคิกโดยตรง เนื่องจากมีการเขี่ยบอลให้ แอชลี่ย์ ยัง พักไว้ก่อน 1 จังหวะ แต่ลูกนี้ก็ถือว่าเป็นการวางน้ำหนักได้อย่างสมบูรณ์แบบ และรูนี่ย์ก็ได้บอกว่านักเตะในทีมได้ฝึกเล่นแบบนี้กันมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วด้วย
เกร็ดน่ารู้ 5 ลูก จากฟรีคิกทั้งหมด 6 ลูกที่เขาทำได้ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดเกิดขึ้นที่ฝั่งสเตรทฟอร์ด เอนด์ ถือว่ามากกว่าที่ทั้งเออร์วิน และกิ๊กส์ทำได้รวมกันเสียอีก
ไรอัน กิ๊กส์ – ยิงฟรีคิกได้ 11 ประตู
ภาพรวม กิ๊กส์ต้องเล่นร่วมกับจอมยิงฟรีคิกมาตลอด 23 ปีกับทีมชุดใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีทั้งเบ็คแฮม, โรนัลโด้, รูนี่ย์, เออร์วิน และอีกหลายคน แต่เขาเองก็ได้โชว์ลูกยิงสวยๆ ให้เห็นเช่นกัน อย่างเช่นลูกยิงปั่นโค้งที่ไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อปี 2009 รวมแล้วตลอดอาชีพค้าแข้งกับทีมปีศาจแดง กิ๊กส์ยิงฟรีคิกได้ไปทั้งหมด 11 ลูกด้วยกัน
สไตล์การยิง กิ๊กส์มักจะมีลูกยิงที่สร้างความประหลาดใจอยู่เสมอ เขาจะไม่วิ่งไปยิงตรงๆ ให้ผู้รักษาประตูเดาทางได้ และเหตุการณ์สุดมหัศจรรย์ก็มักจะเกิดขึ้นด้วยการยิงอันหลากหลายนี้ของเขา
ประตูเด่น ตลอดกว่า 2 ทศวรรษ กิ๊กซี่ได้ยิงฟรีคิกสวยๆ เอาไว้มากมาย แต่ที่เด่นที่สุดก็เกิดขึ้นในฤดูกาล 1992/93 ในเกมกับแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เขาซัดจากระยะ 30 หลาผ่านมือ บ็อบบี้ มิมม์ส เข้าสู่มุมประตู ทำเอาเสียงเฮในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดดังกระหึ่ม
ทีมที่ตกเป็นเหยื่อ มีฟริคิกที่น่าพูดถึงในเกมที่เจอกับลีลล์เมื่อปี 2007 ซึ่งมาจากการเล่นเร็วโดยที่แนวรับฝั่งตรงข้ามไม่ทันได้ตั้งตัว และนั่นก็ทำให้เกมต้องหยุดกันไปหลายนาทีเพราะมีการถกเถียงกับผู้ตัดสินหลังจากบอลเข้าประตูไป
เกร็ดน่ารู้ หลังจากที่ยิงนิวคาสเซิ่ลได้ในปี 1993 เขาก็กลายมาเป็นตัวเลือกที่ 2 หรือ 3 ในการยิงฟรีคิกให้กับทีม แต่เมื่อเบ็คแฮมย้ายทีมออกไป กิ๊กส์ก็ใช้เวลาแค่ 35 นาทีเท่านั้นในพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลถัดไปเพื่อยิงฟรีคิกสุดสวยในเกมนัดเปิดสนามกับโบลตัน
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ – ยิงฟรีคิกได้ 14 ประตู
ภาพรวม เข้ามาเป็นตัวแทนของเบ็คแฮมในการยิงฟรีคิก อย่างไรก็ตาม กว่าที่เขาจะยิงฟรีคิกแบบหวังผลได้อย่างสม่ำเสมอมันก็ต้องใช้เวลาฝึกฝนเทคนิคกันสักพัก เขาซ้อมยิงฟรีคิกทุกวันหลังจากซ้อมภาคปกติเสร็จเช่นเดียวกับเบ็คแฮม และจาก 2 ฤดูกาลสุดท้ายที่แมนเชสเตอร์ เขาก็ยิงประตูจากลูกฟรีคิกได้มากถึง 11 ลูกเลยทีเดียว
สไตล์การยิง โรนัลโด้ใช้เวลาอยู่ 4 ปีในการปรับแต่งเทคนิคการยิงฟรีคิกจนเข้าที่ เขาจะซัดเข้าไปที่จุดที่แข็งที่สุดของลูกบอล ซึ่งเป็นบริเวณรูสูบลม นั่นทำให้บอลพุ่งได้เร็วขึ้น แต่ด้วยความที่มันยิงยาก มันก็มีบ้างเหมือนกันที่บอลพุ่งผิดที่ผิดทาง อย่างไรก็ตาม มันก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งเช่นกันที่ผู้รักษาประตูต้องถูกเล่นงานด้วยทิศทางการพุ่งที่ยากจะคาดเดา
ประตูเด่น ฟรีคิกระยะ 25 หลาที่เขายิงพอร์ทสมัธเมื่อปี 2008 ทำเอาเซอร์ อเล็กซ์ถึงกับเอ่ยปากชมว่าเป็นฟรีคิกที่สวยที่สุดที่เขาเคยเห็นเลยทีเดียว บอลพุ่งผ่านกำแพงทีมปอมปีย์ ก่อนที่จะพุ่งส่ายเข้ามุมประตูชนิดที่ เดวิด เจมส์ ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ทีมที่ตกเป็นเหยื่อ มีหลายทีมที่ถูกโรนัลโด้เล่นงานด้วยลูกฟรีคิก แต่พอร์ทสมัธของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ก็โดนยิงไปมากที่สุดด้วยจำนวน 3 ประตู ครั้งแรกในปี 2003 ต่อด้วยปี 2006 และ 2008
เกร็ดน่ารู้ โรนัลโด้ชอบยิงในเกมเหย้าเป็นพิเศษ จากทั้งหมด 14 ประตู มีถึง 12 ลูกที่เขายิงได้ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ขณะที่ในเกมเยือนนั้นเป็นการยิงที่สนามของซันเดอร์แลนด์ และอาร์เซนอล
เดวิด เบ็คแฮม – ยิงฟรีคิกได้ 27 ประตู
ภาพรวม อาจเรียกได้ว่าเป็นจอมยิงฟรีคิกที่ดีที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สำหรับเบ็คแฮมคือตัวอย่างของคำว่าการฝึกซ้อมทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ดาวเตะจากคลาส ออฟ 92 รายนี้จะอยู่ซ้อมยิงฟรีคิกต่อ หลังจากที่เสร็จสิ้นการซ้อมภาคปกติแล้ว นั่นหมายความว่าถ้าเขาได้โอกาสยิงในทีมชุดใหญ่เมื่อไหร่เขาก็พร้อมทำหน้าที่ทันที ซึ่งนั่นก็ทำให้เขากลายมาเป็นมือหนึ่งของทีมแทนที่เออร์วินกับกิ๊กส์ไปโดยปริยาย และเบ็คแฮมก็ทำหน้าที่ตรงนี้นาน 7 ปี จนกระทั่งย้ายไปเรอัล มาดริดเมื่อปี 2003
สไตล์การยิง เบ็คแฮมบอกว่ามีวิธีการวิ่งเข้ายิงแตกต่างจากนักเตะคนอื่นๆ ซึ่งต้องใช้ทั้งมุมของการยิงและข้อเท้าที่ยืดหยุ่นมากเป็นพิเศษ นั่นทำให้เมื่อใดก็ตามที่นักเตะหมายเลข 7 ของทีมปีศาจแดงคนนี้เตรียมวิ่งเข้ายิงฟรีคิก แฟนบอลก็เตรียมเฮกันได้เลย
ประตูเด่น มีหลายประตูให้น่าพูดถึง แต่ก็มี 3 ลูกที่โดดเด่นเป็นพิเศษ สำหรับแฟนๆ ในเกมยุโรปน่าจะชื่นชอบประตูที่เบ็คแฮมยิงให้ทีมปีศาจแดงไล่บาร์เซโลน่ามาเป็น 2-3 ในปี 1998 นอกจากนี้แล้วก็ยังมีลูกที่ยิงใส่ลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์เมื่อปี 1997 (ชนะ 3-1) และยิงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เมน โร้ดเมื่อปี 2000 (ชนะ 1-0) อีกด้วย
ทีมที่ตกเป็นเหยื่อ เบ็คส์เริ่มซัดฟรีคิกให้กับทีมชุดใหญ่ที่สนามเดอะ เดลล์ของเซาแธมป์ตันเมื่อปี 1996 ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 13 ไปครองได้ในอีก 4 ปีถัดมา แม้กระทั่งตอนที่ทีมนักบุญย้ายสนามมาเตะที่เซนต์ แมรี่ส์ เขาก็ยังตามมาซัดฟรีคิกได้ที่นี่เมื่อปี 2002 ช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 3-1
เกร็ดน่ารู้ ในช่วงเวลาระหว่างฟรีคิกลูกแรกและลูกสุดท้ายของเบ็คแฮม ในเกมกับเซาแธมป์ตันเมื่อปี 1996 และเอฟเวอร์ตันเมื่อปี 2003 ตามลำดับ ไม่มีนักเตะคนอื่นที่สามารถทำประตูจากลูกฟรีคิกให้กับทีมปีศาจแดงได้เลยแม้แต่คนเดียว นอกจากนี้ทั้ง 27 ประตูที่เบ็คแฮมทำได้จากลูกฟรีคิกก็แบ่งออกเป็นเกมเหย้าและเกมเยือนเกือบเท่ากันที่ 14 ต่อ 13 ด้วย
SiR KeaNo

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts