แมนฯ ยูไนเต็ดอาจจะจบปี 2010 ด้วยการนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก แบบสบายๆ แต่แล้วการทำได้แค่บุกไปเสมอกับเบอร์มิ่งแฮม 1 – 1 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ก็ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดเก็บเพิ่มได้แค่เพียง 1 แต้ม ในขณะที่คู่แข่งร่วมเมืองอย่างแมนฯ ซิตี้ สามารถเก็บชัยชนะได้ ทำให้มีคะแนนเท่าทีมปีศาจแดงในขณะนี้ ต่างเพียงประตูได้เสียที่แมนฯ ยูไนเต็ด ดีกว่า 6 ประตู และต้องรอดูผลการแข่งขันของอาร์เซน่อลในคืนวันพุธ หากพวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้มากกว่า 5 ประตู ทีมปีศาจแดงก็จะยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ได้
แมนฯ ยูไนเต็ดทำประตูขึ้นนำเบอร์มิ่งแฮม ไปก่อนเพียง 1 – 0 ในเกมที่ตึงเครียด จนกระทั่งท้ายเกมทีมเจ้าบ้านก็ทำประตูตีเสมอได้ ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ดทำ 3 แต้มหลุดมือไปในนาทีสุดท้าย
“เรากลับมาเล่นในครึ่งหลังได้ดี และเราไม่ควรได้รับผลการแข่งขันแบบนี้” เซอร์ อเล็กซ์ กล่าว
“แต่ฟุตบอลมันเป็นเกมที่ตลก และที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่ยากจะมาเอาชนะไปได้ แต่ผมก็คิดว่าเราน่าจะชนะ เราเล่นได้ดีกว่าจริงๆ”
“เราน่าจะปิดเกมพวกเขาได้ หลังจากที่เราทำประตูขึ้นนำไปแล้ว 1 – 0 หลายครั้งที่เราทำเกมโต้กลับเร็วได้ดี แต่เราก็น่าจะทำจังหวะสุดท้ายให้ดีกว่านี้รวมถึงการปิดสกอร์ด้วย มันเป็นอีกวันหนึ่งที่เราโชคร้าย”
นอกจากนี้ เซอร์อเล็กซ์ยังกล่าวไม่พอใจถึงการตัดสินของลี เมสัน ที่ไม่ให้แฮนด์บอลพวกเขา และไม่ได้ฟาล์วในจังหวะที่ นิโกล่า ซิกิช เข้าปะทะริโอ เฟอร์ดินานด์
“มันเป็นแฮนด์บอล และเราน่าจะได้ฟาล์ว ถ้าผู้ตัดสินไม่เห็นแล้วเราจะได้อะไรจากเกมอีกล่ะ ในเกมระดับนี้ และในเกมสำคัญ คุณย่อมต้องการให้ผู้ตัดสินมองเห็นเหตุการณ์แบบนี้”
อย่างไรเซอร์อเล็กซ์ ก็พอใจกับฟอร์มการเล่นโดยรวมของลูกทีม
“ผมไม่มีอะไรต้องต่อว่าลูกทีมของผม พวกเขาต่อสู้ได้ดี และทำงานอย่างหนัก พวกเขาได้พักเพียงแค่ 2 วัน ดังนั้นมันจึงยากสำหรับพวกเขา”
“ในช่วงครึ่งแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย บอลลอยอยู่ในอากาศซะเป็นส่วนใหญ่ ที่นี่เป็นที่ๆ ยากจะเอาชนะ พวกเขาเกาะติดเรา พวกเขาอยู่อันดับท้ายตาราง ดังนั้น เรารู้ว่าเราต้องเจอเกมที่ยากแน่นอน คุณได้เห็นแล้วจากหลายๆ เกมในบ้านของพวกเขาปีนี้”
แต่แทนที่จะมามัวผิดหวังกับเกมคืนนี้ เซอร์อเล็กซ์ ก็มุ่งเป้าไปที่เกมในปี 2011
“เรายังมีโอกาสคว้าแชมป์ลีก ในตอนนี้มี 5 – 6 ทีมที่มีโอกาสคว้าแชมป์ และอย่างที่ผมพูดเสมอว่ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถ้าคุณอยู่ในอันดับแรกของตารางในช่วงปีใหม่ แล้วล่ะก็คุณมีโอกาสคว้าแชมป์สูงเลยล่ะ”
Opal