แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างสรรค์ผลงานอันยอดเยี่ยมในการเอาชนะนิวคาสเซิล ได้ในบ้านของตนเองด้วยประตูท่วมถ้นถึง 6 – 0 ในเกมพรีเมียร์ ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา จากการทำประตูในช่วงครึ่งหลังทั้งหมด ซึ่งได้แก่แฮตทริกครั้งแรกให้ทีมปีศาจแดงของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับอีก 2 ประตูจากคาร์ลอส เตเบซ และ 1 ประตูจากริโอ เฟอร์ดินานด์
นิวคาสเซิล เดินทางมาเยือนเมืองแมนเชสเตอร์ ในช่วงเวลาคับขันของทีม หลังจาก แซม อัลลาร์ไดซ์ ต้องถูกปลดออกไป 3 วันก่อนหน้านี้หลังจากทำทีมไม่ชนะติดต่อกัน 5 นัด และนั่นก็ส่งผลอย่างมากเพราะผลการแข่งขันที่ออกมา นิวคาสเซิลไม่สามารถต้านทานทีมปีศาจแดง ไว้ได้เลยจริงๆ
หลังจากเก็บชัยชนะได้ในนัดนี้แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ขยับขึ้นเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก เนื่องจากก่อนหน้านี้อาร์เซนอล ทำได้แค่เสมอกับเบอร์มิ่งแฮม ในบ้าน 1 – 1
เริ่มเกมเพียง 10 นาทีเวย์น รูนี่ย์ ก็ได้ยิงจากระยะ 25 หลา แต่ เชย์ กิฟเว่น ผู้รักษาประตูนิวคาสเซิล ก็ป้องกันไว้ได้ จากนั้นไม่กี่นาที ไมเคิล คาร์ริค ก็ได้เปิดบอลต่อให้รูนี่ย์ ยิง แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไป
จากนั้นในนาทีที่ 27 โรนัลโด้ ได้ลากบอลทะลุแนวรับของนิวคาสเซิล ผ่านไปได้ 2 คนก่อนที่สตีเว่น เทย์เลอร์ จะยื่นขามาเกี่ยวเขาล้มลงในกรอบเขตโทษ เห็นได้ชัดว่าแมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะได้จุดโทษ แต่ ร็อบ สไตล์ส กลับไม่เป่าให้เป็นจุดโทษ และปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป จากนั้นไม่กี่นาที อลัน สมิธก็เข้าสกัดไรอัน กิ๊กส์ ล้มลงในกรอบเขตโทษ และทีมปีศาจแดงน่าจะได้จุดโทษ แต่กลับไม่ได้ถึง 2 ครั้งติดกัน
นิวคาสเซิล ได้บุกน้อยมากในเกมนี้ แต่กับการที่ไม่มีผู้จัดการทีม พวกเขาก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง จากจังหวะที่ไมเคิล โอเว่น หลุดขึ้นไปได้ยิงบอลผ่าน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินกลับยกธงว่าเขาล้ำหน้า ซึ่งเมื่อดูจากภาพรีเพลย์แล้วถือว่าเป็นการตัดสินที่ผิดพลาดอย่างมาก
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงโหมบุกเพื่อทำประตู แต่ก็ไม่สามารถทำได้ โรนัลโด้ ได้ยิงอีกครั้งหนึ่งแต่ก็ถูกป้องกันไว้ได้ ตามด้วยลูกโหม่งของเขาที่หลุดออกนอกกรอบ หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0 – 0
เริ่มครึ่งหลังได้เพียงไม่ถึงนาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังโหมบุกอีกครั้ง และเทย์เลอร์ ก็ต้องสกัดลูกยิงของคาร์ลอส เตเบซ ซึ่งกระดอนไปเข้าทางรูนี่ย์ ได้ยิงซ้ำแต่ก็เหินข้ามคานออกไป
จากนั้นนาทีที่ 49 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูขึ้นนำ เมื่อสมิธ ทำฟาวล์โรนัลโด้ ล้มลงในระยะ 20 หลา ผู้ตัดสินให้เป็นลูกฟรีคิก โรนัลโด้ รับหน้าที่ยิงฟรีคิก เขาตัดสินใจยิงลูกเรียดในขณะที่กำแพงนิวคาสเซิล ต่างพากันกระโดด รวมทั้งกิฟเว่น ที่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้บอลพุ่งเรียดเข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1 – 0
จากนั้นอีกเพียง 6 นาทีแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ขึ้นนำเป็น 2 – 0 เมื่อ กิฟเว่น รับบอลคืนจากกองหลัง และเปิดบอลต่อ แต่กลับเตะผิดเหลี่ยมไปถูก เคลาดิโอ คาคาปา กระดอนไปเข้าทางกิ๊กส์ ได้เปิดต่อให้เตเบซ ได้ยิงเข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 2 – 0
หลังจากได้ประตูขึ้นนำ 2 ประตู แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ครองเกมไว้ได้หมด ทั้งแนวรับที่แข็งแกร่ง กองกลางที่สามารถเปิดบอลไปยังแดนหน้าได้ดีอย่างคาร์ริค และแอนเดอร์สัน และแนวรุกที่เป็นตัวอันตรายอย่างเตเบซ, รูนี่ย์ และโรนัลโด้ ทำให้ทีมเยือนหมดสิทธิ์ลุ้นทำประตู
จนกระทั่งนาทีที่ 70 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูที่ 3 จากการประสานงานกันของคาร์ริค, รูนี่ย์ และเตเบซ ก่อนที่เตเบซ จะจ่ายบอลให้กับโรนัลโด้ วิ่งสอดขึ้นมายิงบอลตุงตาข่าย แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 3 – 0
อีก 15 นาทีถัดมา ประตูของแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไหลลื่น เมื่อริโอ เฟอร์ดินานด์ ทำประตูที่ 4 ให้ทีม จากการเปิดบอลทางฝั่งซ้ายโดยเวย์น รูนี่ย์ เข้ากลางให้เฟอร์ดินานด์ ได้ยิงบอลเข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 4 – 0
นาที 88 โรนัลโด้ ก็ทำแฮตทริกแรกของเขาให้ทีมปีศาจแดง ได้สำเร็จ เมื่อเขาได้หลุดขึ้นมายิงจากระยะเพียง 12 หลาบอลเข้าประตูไปอย่างสบายๆ แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 5 – 0
ปิดท้ายนาทีสุดท้ายของเกมด้วยประตูที่ 6 เมื่อจอห์น โอเชีย เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากลางให้เตเบซ วอลเล่ย์บอลเข้าประตูไป จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะนิวคาสเซิล ได้ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด 6 – 0 เก็บ 3 คะแนนขึ้นนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
ปาทริซ เอฟร่า 3
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5 ( น.85)
จอห์น โอเชีย 22
เนมานย่า วิดิช 15
โอลิเวียร่า แอนเดอร์สัน 8
ไมเคิล คาร์ริค 16
ไรอัน กิ๊กส์ 11
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 ( น.49, 70, 88)
เวย์น รูนี่ย์ 10 ( น.45)
คาร์ลอส เตเบซ 32 ( น.55, 90)
สำรอง
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
แดนนี่ ซิมป์สัน 25 น.67 ปาทริซ เอฟร่า 3
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24 น.72 โอลิเวียร่า แอนเดอร์สัน 8
หลุยส์ นานี่ 17 น.72 ไรอัน กิ๊กส์ 11
พาร์ค จีซุง 13
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
เชย์ กิฟเว่น 1
เคลาดิโอ คาคาปา 6
สตีเฟ่น คาร์ 2
โฆเซ่ เอ็นริเก้ 3
สตีเว่น เทย์เลอร์ 27
นิคกี้ บัตต์ 22
เดเมี่ยน ดัฟฟ์ 11 ( น.82)
เจมส์ มิลเนอร์ 16
ชาร์ลส เอ็นซอกเบีย 14
ไมเคิล โอเว่น 10
อลัน สมิธ 17 ( น.90)
สำรอง
สตีฟ ฮาร์เปอร์ 13
เดวิด โรเซห์นาล 4 น.82 ไมเคิล โอเว่น 10
เบโลโซกลู เอ็มเร่ 5
คาเซนก้า ลัวลัว 38
มาร์ค วิดูก้า 36 น.64 เจมส์ มิลเนอร์ 16
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 6, ยิงตรงกรอบ 16, ยิงหลุดกรอบ 8, โดนบล็อค 5, เตะมุม 16, ฟาวล์ 7, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 1, การครองบอล 54.7%
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ประตู 0, ยิงตรงกรอบ 2, ยิงหลุดกรอบ 3, โดนบล็อค 4, เตะมุม 1, ฟาวล์ 11, ล้ำหน้า 3, ใบเหลือง 1, ใบแดง 1, การครองบอล 45.3%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, ปาทริซ เอฟร่า 7, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 8, จอห์น โอเชีย 7, เนมานย่า วิดิช 7, โอลิเวียร่า แอนเดอร์สัน 7, ไมเคิล คาร์ริค 8, ไรอัน กิ๊กส์ 7, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 9, เวย์น รูนี่ย์ 7, คาร์ลอส เตเบซ 9
สำรอง แดนนี่ ซิมป์สัน 7, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 7, หลุยส์ นานี่ 6
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เชย์ กิฟเว่น 6, เคลาดิโอ คาคาปา 4, สตีเฟ่น คาร์ 5, โฆเซ่ เอ็นริเก้ 5, สตีเว่น เทย์เลอร์ 6, นิคกี้ บัตต์ 6, เดเมี่ยน ดัฟฟ์ 5, เจมส์ มิลเนอร์ 5, ชาร์ลส เอ็นซอกเบีย 7, ไมเคิล โอเว่น 5, อลัน สมิธ 4
สำรอง เดวิด โรเซห์นาล 6, มาร์ค วิดูก้า 6
Por